วัดพระธรรมกาย เป็นพุทธรึเปล่า นิกายอะไร ทำไมไม่แยกตั้งลัทธิใหม่ไปเลย????

คำถาม : วัดพระธรรมกายเป็นเถรวาทหรือมหายานกันแน่!!!    ทำไมไม่แยกนิกายไปเลย!!! หรือทำมูลนิธินอกเหนือศาสนาพุทธไปเลย!!!


คำตอบ :

ขอยืนยันว่า...“วัดพระธรรมกาย
เป็นพระพุทธศาสนาเถรวาทอย่างแน่นอน”  

แต่ก่อนที่จะอธิบายขยายความเกี่ยวกับประเด็นนี้  ควรมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าพระพุทธศาสนาในยุคปัจจุบัน   ถูกแบ่งออกเป็นนิกายหลัก 2 นิกายคือ เถรวาท และ มหายาน

พระพุทธศาสนานิกาย “เถรวาท”  จัดว่าเป็นนิกายดั้งเดิมของพระพุทธศาสนา  ที่ถือปฏิบัติตามพุทธบัญญัติมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่      
“พระมหากัสสปะ” เป็นประธานในการทำ “ปฐมสังคายนา”  เป็นกลุ่มที่พยายามรักษาพระธรรมวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด  เพื่อคงความบริสุทธิ์บริบูรณ์ของพระสัทธรรมโดยไม่มีการยืดหยุ่นข้อวัตรปฏิบัติ  หรือปรับเปลี่ยนคำสอนให้ผิดไปจากคำสอนดั้งเดิม     

และด้วยความเคร่งครัดในข้อวัตรปฏิบัติของนิกายเถรวาท  จึงทำให้การเผยแผ่มีข้อจำกัดและกระจายออกไปได้ไม่กว้างเท่ากับมหายาน  

ซึ่งในยุคปัจจุบัน!!!  พุทธนิกายเถรวาทจะนับถือแพร่หลายในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศไทย ลาว พม่า ศรีลังกา เป็นต้น

พระพุทธศาสนานิกาย “มหายาน”  เป็นนิกายที่แยกตัวออกมาในภายหลัง  มีแนวคิดเรื่องการบำเพ็ญตนเป็นพระโพธิสัตว์  เน้นสร้างบารมีเพื่อขนสัตว์โลกไปสู่ความพ้นทุกข์ให้ได้เป็นจำนวนมาก  เป็นกลุ่มที่มีการแก้ไขข้อวัตรปฏิบัติให้ยืดหยุ่น  เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเผยแผ่พระธรรมคำสอนไปในประเทศต่างๆ  ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศ  ภูมิประเทศ และวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป    

นอกจากนี้ยังมีการผนึกกำลังอุบาสก อุบาสิกา เพื่อช่วยในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้กว้างไกลมากยิ่งขึ้น   

ในยุคปัจจุบัน!!! พุทธนิกายมหายานจะนับถือแพร่หลายในประเทศทิเบต  จีน  มองโกเลีย  เกาหลี  เวียดนาม  สิกขิม  และภูฏาน  เป็นต้น.




ถึงแม้พระพุทธศาสนานิกายเถรวาทและมหายานจะมีแนวทางปฏิบัติและมีแนวคิดที่แตกต่างกันในหลายๆ เรื่องตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น  แต่อย่างไรก็ตาม!!! ทั้ง 2 นิกายต่างก็สอนเรื่องอริยสัจ 4  และสอนเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา   อีกทั้งยังมีจุดหมายเดียวกัน คือ ความหลุดพ้นจากกิเลสอันเป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งคู่

สำหรับพระพุทธศาสนาในประเทศไทยนั้น  จัดเป็นพุทธนิกาย “เถรวาท”  ซึ่งแต่เดิมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว  แต่ในเวลาต่อมาได้มีการแยกย่อยออกเป็น 2 ฝ่ายได้แก่  “มหานิกาย” (ซึ่งก็คือคณะสงฆ์เถรวาทดั้งเดิมที่ปักหลักเผยแผ่ในผืนแผ่นดินนี้มาอย่างยาวนาน)  และ “ธรรมยุติกนิกาย” (ที่เพิ่งตั้งขึ้นในช่วงพ.ศ. 2376 โดย “พระวชิรญาณเถระ” หรือ “เจ้าฟ้ามงกุฎ”  ซึ่งต่อมาได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4) 
 

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร!!! ทั้งสองฝ่ายต่างก็อยู่ภายใต้กฏมหาเถรสมาคมเดียวกันและมีสมเด็จพระสังฆราชพระองค์เดียวกัน
ในส่วนของวัดพระธรรมกายนั้น  ถือเป็นวัดใน “นิกายเถรวาท” ที่อยู่ในสังกัด “มหานิกาย” มาตั้งแต่ต้น  เพราะพระภิกษุทุกรูปในวัดล้วนผ่านการบวชโดยมีพระอุปัชฌาย์อยู่ในสังกัด “มหานิกาย” อย่างถูกต้องตามพระธรรมวินัย   อีกทั้งทุกรูปยังมีข้อวัตรปฏิบัติและถือศีล 227 ข้อตรงตามแนวทางปฏิบัติของพุทธเถรวาทดั้งเดิมทุกประการ  
 
เพราะฉะนั้น  วัดพระธรรมกายจึงไม่ใช่วัดในนิกาย “มหายาน” อย่างที่คนบางกลุ่ม (โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีอคติกับวัดพระธรรมกาย)  พยายามชี้นำให้คนในสังคมเกิดความเข้าใจผิดและเกิดความสับสน

สำหรับเหตุผลที่ทำให้คนสงสัยว่าวัดพระธรรมกายเป็น        เถรวาทหรือมหายานกันแน่นั้น   น่าจะมาจากเหตุ 2 ประการดังนี้

1.เรื่องแนวคำสอน : หลายๆคน (โดยเฉพาะที่ไม่เคยเข้าวัดพระธรรมกาย)  อาจมีความเคลือบแคลงสงสัยในเรื่องคำสอนของวัดพระธรรมกาย  ที่มีบางเรื่องอาจจะดูคล้ายแนวทางของพุทธแบบ “มหายาน” โดยเฉพาะเรื่องเป้าหมายในการสร้างบารมี  ที่ทางวัดอยากให้ “ทุกคนบนโลก” เข้าถึงสันติสุขภายใน(หรือบรรลุธรรมเข้าถึงพระธรรมกาย)  ซึ่งจะทำให้โลกเกิดสันติภาพที่แท้จริง  
                       
มาถึงจุดนี้!!! ขอถามหน่อยเถอะว่า...

“เป้าหมายที่จะช่วยให้ทุกคนบนโลกมีศีล  มีธรรม  และเข้าถึงธรรมซึ่งเป็นหนทางสู่นิพพานมันผิดตรงไหน!!!  หรือมันไม่ดีอย่างไร!!!   

ถึงแม้เป้าหมายของวัดพระธรรมกายจะเน้นการสร้างบารมีแบบไปเป็นทีม (ซึ่งอาจจะดูแตกต่างจากวัดพุทธเถรวาทหลายๆวัด)  แต่หลักธรรมหรือคำสอนที่ทางวัดพระธรรมกายนำมาเผยแผ่หรือสอนให้แก่สาธุชน  ก็ตรงตามหลักคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานเอาไว้ทุกประการ 


2.เรื่องแนวทางในการเผยแผ่ : ถ้ามองแบบผิวเผิน!!! แนวทางในการเผยแผ่ของวัดพระธรรมกายอาจดูแตกต่างจากวัดเถรวาทหลายๆ วัด  เพราะทางวัดจะใช้แนวทางในการเผยแผ่แบบ เชิงรุก ไม่ได้เป็นแบบตั้งรับอย่างเดียว (คือ เน้นการเผยแผ่พระธรรมคำสอนออกไปสู่สังคมในวงกว้าง)  

แต่ก่อนที่ใครจะกล่าวหาวัดพระธรรมกายว่าไม่ใช่พุทธเถรวาทเพราะเรื่องนี้!!!   ได้โปรดกลับไปศึกษาและทำความเข้าใจเรื่องการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในยุคพุทธกาลกันให้ดีเสียก่อน   จะได้ไม่หลงสรุปอะไรง่ายๆ เพียงเพราะเห็นว่า...วัดพระธรรมกายมีแนวทางในการเผยแผ่พระธรรมคำสอนที่แตกต่างจากวัดเถรวาทอื่นๆในประเทศไทย

ถ้าย้อนกลับไปในยุคที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังมีพระชนม์ชีพอยู่   เดิมทีนั้น!!! พระพุทธศาสนายังคงรวมกันเป็นหนึ่งเดียว  ไม่มีการแตกหรือแยกนิกายแบบในยุคปัจจุบัน  และด้วยความที่ในยุคสมัยนั้นศาสนาพราหมณ์เป็นศาสนาหลักที่คนอินเดียโดยส่วนใหญ่นับถือ   อีกทั้งยังมีความเชื่ออื่นๆ แพร่หลายในอินเดียอีกมากมาย   

ดังนั้น  พระพุทธองค์จึงทรงมีนโยบายให้เหล่าพระอรหันตสาวก(ซึ่งในช่วงแรกๆ จะมีกันอยู่เพียงแค่ 60 รูป)  แยกย้ายกันออกไปเผยแผ่พระสัทธรรมคำสอนให้ได้มากที่สุด  และก่อนที่พระพุทธองค์จะส่งพระอรหันตสาวกทั้ง 60 รูปออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา   พระพุทธองค์ก็ทรงประทานโอวาทให้แก่พระอรหันตสาวกเหล่านั้นว่า

ภิกษุทั้งหลายพวกเธอจงจาริกไปเพื่อประโยชน์สุขแก่ชนจำนวนมาก  เพื่ออนุเคราะห์ชาวโลก  เพื่อประโยชน์เกื้อกูลและความสุขแก่ทวยเทพและมนุษย์   อย่าไปโดยทางเดียวกันสองรูป (คือจงไปคนเดียวหลายๆ ทาง  อย่าไปทางเดียวหลายๆ คน) … แม้เราก็จักไปยังตำบลอุรุเวลาเสนานิคมเพื่อแสดงธรรม   (หมายเหตุ : สามารถไปตามอ่านรายละเอียดในช่วงนี้ได้จาก...พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม  4 หน้า 40 วินัยปิฎก มหาวรรค)

จากโอวาทดังกล่าวจะเห็นได้ว่า  นี่คือนโยบายเผยแผ่แบบ เชิงรุก” ไม่ใช่นโยบาย “ตั้งรับอยู่กับที่”  เพราะในสภาวะที่ศาสนาพราหมณ์ฝังรากลึกในสังคมอินเดียขนาดนั้น  ถ้าหากมัวแต่ตั้งรับอยู่กับที่โดยไม่ออกไปเผยแผ่อย่างจริงจัง  ก็คงยากที่จะแผ่ขยายพระสัทธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกไปได้ในวงกว้าง

นอกจากพระพุทธองค์จะส่งพระอรหันตสาวกที่มีทั้งหมดออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามที่ต่างๆ แล้ว  พระพุทธองค์ยังทรงออกไปประกาศพระสัทธรรมด้วยตัวของพระองค์เองอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น เสด็จเดินทางไปที่อุรุเวลาเสนานิคมเพื่อโปรดชฎิล 3 พี่น้อง  ซึ่งก็คือ อุรุเวลกัสสปะ , นทีกัสสปะ   และคยากัสสปะ  ซึ่งมีบริวารรวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 คน  

เมื่อชฎิล 3 พี่น้องพร้อมเหล่าบริวารเกิดความเลื่อมใสและขอออกบวชในพระพุทธศาสนา   ก็ทำให้พระพุทธองค์ทรงมีพระสาวกเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในคราวเดียวกว่าพันองค์  จากจุดนี้!!! ทำให้พระพุทธศาสนาขยายตัวอย่างรวดเร็วและสามารถแผ่ขยายออกไปได้อย่างกว้างไกลตั้งแต่นั้น

นอกจากนี้!!! พระพุทธองค์ยังเสด็จไปโปรดบุคคลระดับผู้นำแคว้นอีกมากมาย   ยกตัวอย่างเช่น  เสด็จไปโปรด  “พระเจ้าพิมพิสาร” แห่งกรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ  เมื่อพระเจ้าพิมพิสารบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันและมีศรัทธาในพระพุทธศาสนาแล้ว   ก็มีผลทำให้เหล่าข้าราชบริพารและประชาชนในแว่นแคว้น   หันมานับถือพระพุทธศาสนาและเข้าถึงคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ง่ายยิ่งขึ้น
  

ซึ่งผลจากการที่พระบรมศาสดาทรงมีนโยบายเผยแผ่พระพุทธศาสนาใน “เชิงรุก”  (คือ ทั้งที่ทรงออกไปแผยแผ่ด้วยตัวของพระองค์เอง  และให้เหล่าพระสาวกแยกย้ายกันออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา) ทำให้ในที่สุด!!! พระพุทธศาสนาก็สามารถตั้งมั่นและครองใจผู้คนทุกระดับชั้นในชมพูทวีปได้เป็นผลสำเร็จ (กล่าวได้ว่า  มีคนทุกระดับหันมานับถือพระพุทธศาสนา ตั้งแต่บุคคลผู้ยากไร้  คนทั่วไป  ไปจนถึงระดับมหาเศรษฐี  ผู้นำลัทธิ  และกษัตริย์ผู้ปกครองแว่นแคว้น) 
  
จากเรื่องราวข้างต้นคงทำให้ทุกท่านเห็นภาพการเผยแผ่ “เชิงรุก” ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงวางรากฐานเอาไว้ได้พอสมควร  และคงจะมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับการเผยแผ่เชิงรุกของวัดพระธรรมกายว่า 

“การเผยแผ่ในลักษณะนี้ไม่ใช่วิธีการใหม่  แต่เป็นการเจริญรอยตามแนวทางที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศพระสัทธรรมในยุคพุทธกาล  โดยมีการปรับรูปแบบในการเผยแผ่ (แต่ไม่ได้ปรับเปลี่ยนคำสอน) เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพสังคมและสถานการณ์โลกในยุคปัจจุบัน   

(ยกตัวอย่างเช่น มีการส่งพระไปเทศน์สอนและฝึกสมาธิถึงบ้านสาธุชนที่เข้าร่วมโครงการบ้านกัลยาณมิตรทั้งในและนอกประเทศทั่วโลก  หรือมีการใช้สื่อมัลติมีเดียและใช้ช่องทางในโลกโซเชียล  เพื่อช่วยในการเผยแผ่พระสัทธรรมให้กว้างไกลออกไปทั่วโลก  เป็นต้น)  

จากที่ได้อธิบายขยายความมาทั้งหมด  ก็เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า “แนวคำสอนและแนวทางในการเผยแผ่ที่วัดพระธรรมกายทำอยู่ในตอนนี้   เป็นพุทธเถรวาทแบบดั้งเดิมแท้ ๆ ตามที่พระพุทธองค์ทรงวางรากฐานไว้ตั้งแต่ครั้งพุทธกาล”  

เพราะฉะนั้น  ที่มีคนมาตั้งประเด็นว่า “ทำไมไม่แยกนิกายไปเลย!!! หรือทำไมไม่ทำมูลนิธินอกศาสนาพุทธไปเลย” 

จึงไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม  เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องแยก......ชัดมั้ย!!!
วัดพระธรรมกาย เป็นพุทธรึเปล่า นิกายอะไร ทำไมไม่แยกตั้งลัทธิใหม่ไปเลย???? วัดพระธรรมกาย เป็นพุทธรึเปล่า นิกายอะไร ทำไมไม่แยกตั้งลัทธิใหม่ไปเลย???? Reviewed by Unknown on 02:38 Rating: 5

100 ความคิดเห็น:

  1. วัดพระธรรมกายเป็นพุทธเถรวาท สังกัดมหานิกายจริงค่ะ

    ตอบลบ
  2. คนที่ตั้งคำถามเเบบนี้หวังว่าอ่านเเล้วจะเข้าใจมากขึ้นนะ

    ตอบลบ
  3. วัดพระธรรมกายเป็นพุทธเถรวาท สังกัดมหานิกายอย่างแน่นอนไม่เป็นอื่นไปได้ หลวงพ่อต้องการรวมสงฆ์ให้มีความเหนียวแน่น

    ตอบลบ
  4. เป็นพุทธแท้อ่านแล้วทำความเข้าใจวางใจให้เป็นกลาง

    ตอบลบ
  5. วัดพระธรรมกายเป็นพุทธศาสนาเถรวาท ผู้สงสัยก็เรียญเชิญมาศึกษาและปฏิบัติจะได้รับความสุขที่แท้จริง

    ตอบลบ
  6. ก่อนจะถามคำถามนี้ ควรไปอ่านพระไตรปิฎก และศึกษาประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาให้กระจ่างก่อนค่อยตั้งคำถาม แล้วก็ขอยืนยันอีกครั้งว่า วัดพระธรรมกายเป็นวัดพุทธ เถรวาท ย้ำ เถรวาทหรือเรียกอีกอย่างว่า หินยาน ไม่ใช่เป็นมหายาน เข้าใจตรงกันนะ

    ตอบลบ
  7. คนที่ตั้งคำถามนี้ส่วนใหญ่ไม่ปฏิบัติจริงถ้าพระเถระผู้ใหญ่ที่ท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบท่านจะไม่ว่าร้ายใคร ท่านรู้ดีว่าวัดพระธรรมกายเป็นอย่างไร..?ท่านไม่สงสัยเพราะท่านมีใจที่เป็นธรรม ส่วนคนไม่จริง ชอบบิดเบือนต่างหากล่ะเที่ยวอวดว่าตนฉลาดกว่าใครแล้วไปว่าร้าย
    ผู้อื่นนั่นล่ะอันธพาล

    ตอบลบ
  8. อ่านให้จบจากต้นตอ จะได้ความจริง ดีกว่าหลงเชื่อใครก็ไม่รู้ที่มโน ด้วยอคติ หาข้อแท้จริงไม่ได้

    ตอบลบ
  9. ชาวพุทธมีหลากหลายนิกาย แต่เวลาจัดกิจกรรมพระศาสนามารวมกันได้อย่างน่าทึ่ง เพราะความรักในพระพุทธเจ้า

    ตอบลบ
  10. มาเถิดเข้ามาพิสูจน์กันที่วัดให้เห็นชัดๆว่าสอนอย่างไรอย่างมัวแต่ฟังคำว่าร้ายจากคนมีมิจฉาอยู่ในใจคงไม่ได้อะไรนอกจากคำร้ายๆเท่านั้นมาเถิดมาแอบดู แอบฟังในวัดมาจับผิดก็ไม่ว่าขอให้มาก็แล้วกัน
    แล้วจะได้รู้ได้เห็นของจริงและความจริงไง กล้ามาใหมเอ่ย

    ตอบลบ
  11. ของจริง ดีจริง เชิญมาพิสูจน์เถิด อัตตาหิ อัตโนนาโถ

    ตอบลบ
  12. เอหิปัสสิโก รู้ได้ด้วยตนเอง เชิญมาพิสูจน์เถิด

    ตอบลบ
  13. เอหิปัสสิโก รู้ได้ด้วยตนเอง เชิญมาพิสูจน์เถิด

    ตอบลบ
  14. ของจริง ดีจริง เชิญมาพิสูจน์เถิด อัตตาหิ อัตโนนาโถ

    ตอบลบ
  15. ก็พระที่บวชตามพระธรรมวินัยของพระุพุทธเจ้าองค์เดียวกัน และปฏิบัติตามพระธรรมวินัยดั้งเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงลอกเลียนใหม่แต่อย่างใด กรุณาให้ความเป็นธรรมอย่าได้มีใจลำเอียง ถ้าอยากรู้ว่าเหมือนไหมมาบวช นี่ลองมาแล้วก็เหมือนกับที่อื่นแต่บวชที่เยอะๆก็เท่านั้น ต่างกันแค่ปริมาณ

    ตอบลบ
  16. ของจริง ดีจริง เชิญมาพิสูจน์เถิด อัตตาหิ อัตโนนาโถ

    ตอบลบ
  17. คำตอบแจ่มแจ้งเหมือนหงายของที่คว่ำ หวังว่าจะเข้าใจนะ

    ตอบลบ
  18. สาธุ เชิญมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง

    ตอบลบ
  19. สาธุ เชิญมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง

    ตอบลบ
  20. สาธุ เชิญมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง

    ตอบลบ
  21. คำตอบแจ่มแจ้งเหมือนหงายของที่คว่ำ หวังว่าจะเข้าใจนะ

    ตอบลบ
  22. วัดพระธรรมกายสร้างพระแท้ สร้างคนดีมากมาย

    ตอบลบ
  23. วัดพระธรรมกายเป็นพุทธเถรวาท สังกัดมหานิกาย

    ตอบลบ
  24. ข้อความชัดเจน
    ทุกคนคงเข้าใจนะค่ะ

    ตอบลบ
  25. วัดพระธรรมกายเป็นพุทธเถรวาท สังกัดมหานิกาย

    ตอบลบ
  26. ชัดเจนค่ะ สาธุค่ะ

    ตอบลบ
  27. ไม่มีอะไรในกอไผ่! นอกจากอยากให้เสื่อมเสีย! เป็นจําเลยสังคม!

    ตอบลบ
  28. วัดพระธรรมกายมิใช่ลัทธิใหม่แต่เป็นพุทธศาสนาเถรวาทสังกัดมหานิกาย.....

    ตอบลบ
  29. ชัดเจน
    สาธุคะ อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะคะ สาธุ

    ตอบลบ
  30. กระจ่างแจ้ง ชัดเจนมากๆๆเลยค่ะ

    ตอบลบ
  31. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  32. คนที่ชอบกล่าวว่า โจมตีวัดพระธรรมกาย..ส่วนใหญ่มักจะเชื่อตามกระแสข่าวลือ หรือเอาอคติความไม่ชอบเป็นส่วนตัว..มาเป็นที่ตั้ง..แต่ไม่ได้ทำการศึกษาหรือ..เรียนรู้หลักคำสอนที่แท้จริงของวัดฯเลย...

    ตอบลบ
  33. คนที่ชอบกล่าวว่า โจมตีวัดพระธรรมกาย..ส่วนใหญ่มักจะเชื่อตามกระแสข่าวลือ หรือเอาอคติความไม่ชอบเป็นส่วนตัว..มาเป็นที่ตั้ง..แต่ไม่ได้ทำการศึกษาหรือ..เรียนรู้กลักคำสอนที่แท้จริงของวัดฯเลย...

    ตอบลบ
  34. ไม่ระบุชื่อ17 สิงหาคม 2559 เวลา 06:27

    วัดพระธรรมกายเป็นวัดเถรวาท ชัดเจนค่ะ

    ตอบลบ
  35. ไม่ระบุชื่อ17 สิงหาคม 2559 เวลา 06:27

    วัดพระธรรมกายเป็นวัดเถรวาท ชัดเจนค่ะ

    ตอบลบ
  36. จะธรรมยุตหรือมหานิกายก็พระพุทธเจ้า พระศาสดาองค์เดียวกัน พระไตรปิฎกก็เล่มเดียวกันแหละค้า อย่ามัวเสียเวลามานั่งเถียงกันอยู่ทำไม ขอให้ปฏิบัติเถอะ แล้วจะมีความสุขกันทุกคน

    ตอบลบ
  37. จะธรรมยุตหรือมหานิกายก็พระพุทธเจ้า พระศาสดาองค์เดียวกัน พระไตรปิฎกก็เล่มเดียวกันแหละค้า อย่ามัวเสียเวลามานั่งเถียงกันอยู่ทำไม ขอให้ปฏิบัติเถอะ แล้วจะมีความสุขกันทุกคน

    ตอบลบ
  38. วัดพระธรรมกายสอนให้ทำทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนา เหมือนวัดทั่วไปที่เป็นเถรวาท ไม่ใช่นิกายใหม่อะไร

    ตอบลบ
  39. เข้ามาดูก่อนที่จะพูด เข้ามาพิสูจน์ก่อนที่จะเขียน ดีมั้ย อย่าด่วนสรุปในสิ่งที่ยังไม่สัมผัส

    ตอบลบ
  40. วัดพระธรรมกาย เดินตามเส้นทางของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราโชคดีที่ได้มาศึกษา ได้ปฏิบัติธรรมที่วัดนี้

    ตอบลบ
  41. เชิญมาพิสูจน์ด้วยตัวเองนะคะ

    ตอบลบ
  42. วัดพระธรรมกายสอนไห้สวดมนตร์รักษาศิลและเจริญภาวนาก็เหมื่อนวัดอื่นนะละค่ะขอไห้คนที่มีอคติลองเขามาสัมพัดดูว่าเหมือนกับวัดอื่นไหมค่ะ

    ตอบลบ
  43. เป็นวัดที่คือวัดจริงๆ ที่นำคำสอนเก่าแก่มาปฏิบัติ

    ตอบลบ
  44. พระพุทธองค์ทรงสอนธรรมแบบเดียวกัน ให้ทำใจนิ่งๆ ใจใสๆ ใจสบายๆ ให้มีเมตตากรุณาต่อกัน ชาวพุทธไม่ควรมีแบ่งแยกเราเขา สันติภาพจึงจะเกิดขึันบนโลกใบนี้.

    ตอบลบ
  45. พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าอย่าเพิ่งเชื่อให้มาพิสูจน์ค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช่คะและเชื่อว่าศาสนาพุทธของเราวิเศษที่สุดแล้วแม้แต่นักวิทยาศาสต์ก้อยังให้ความยอมรับว่าพิสูจน์ได้จิง

      ลบ
  46. เป็นวัดในพุทธศาสนาที่สอนให้มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึก สอนให้เราเคร่งครัดในการทำทานรักษาศีลเจริญภาวนา สอนให้ละชั่วกลัวบาป ไม่เคยสอนให้คิดร้ายใครว่าร้ายใคร ถ้าไม่เชื่อก้อเชิญมาพิสูจน์ด้วยตนเองนะคะ

    ตอบลบ
  47. วัดพระธรรมกายเป็นพุทธศาสนานิกายเถรวาทแน่นอน

    ตอบลบ
  48. วัดพระธรรมกายเป็นพุทธศาสนานิกายเถรวาทอย่างแน่นอน

    ตอบลบ
  49. ยืนยันเป็นพุทธนิกายเถรวาทแน่นอน

    ตอบลบ
  50. ยืนยันเป็นพุทธนิกายเถรวาทแน่นอน

    ตอบลบ
  51. ของจริงก็คือของจริงครับ

    ตอบลบ
  52. ค่ะวัดพระธรรมกายเป็นพุทธนิกายเถรวาท และเป็นวัดรวมสงฆ์ไว้ให้ ลูกหลาน โปรดอย่าทำลาย

    ตอบลบ
  53. ค่ะวัดพระธรรมกายเป็นพุทธนิกายเถรวาท และเป็นวัดรวมสงฆ์ไว้ให้ ลูกหลาน โปรดอย่าทำลาย

    ตอบลบ
  54. วัดพระธรรมกาย ไม่ได้เป็นลัทธิใหม่เลยนะคะ ยังคงสอนเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา อีกทั้งยังมีจุดหมายเดียวกัน คือ ความหลุดพ้นจากกิเลสอันเป็นเหตุแห่งทุกข์ค่ะ ลูกจึงมั่นคง อยู่ในวัดพระธรรมกาย เพราะท่านสอนแก่นที่แท้จริงของพระพุทธศาสนา คือความหลุดพ้นจากกิเลสค่ะ

    ตอบลบ
  55. ใครไม่เชื่อลองมาวัดฟังธรรมดูซิคะ สงสัยอะไรจะได้ถามกันไปเลยให้หายสงสัย แบบนี้น่าจะดีนะ

    ตอบลบ
  56. ใครไม่เชื่อลองมาวัดฟังธรรมดูซิคะ สงสัยอะไรจะได้ถามกันไปเลยให้หายสงสัย แบบนี้น่าจะดีนะ

    ตอบลบ
  57. รู้กันยางคะ ที่ปทไทยล้าหลังเพราะคนส่วนมากไม่ชอบเรื่องดี เรื่องไหนจะนำความรุ่งเรืองมาให้ต้องต่อต้านไว้ก่อนน่ะ ชอบคิดลบเปนปกกาติ

    ตอบลบ
  58. วัดระธรรมกายเป็นพุทธเถรวาท สังกัดมหานิกายของคณะสงฆ์ไทย

    ตอบลบ
  59. รู้กันยางคะ ที่ปทไทยล้าหลังเพราะคนส่วนมากไม่ชอบเรื่องดี เรื่องไหนจะนำความรุ่งเรืองมาให้ต้องต่อต้านไว้ก่อนน่ะ ชอบคิดลบเปนปกกาติ

    ตอบลบ
  60. ชัดยัง ใครสงสัยมาศึกษาได้นะค่ะพวกเรายินดีต้อนรับ

    ตอบลบ
  61. พุทธแน่นอนค่ะ แล้วก็สอรดีด้วย ให้รักบุญกลัวบาปและไม่เบียดเบียนกัน

    ตอบลบ
  62. อย่ามัวแต่สงสัยเลยค่ะลองมาพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองค่ะแล้วจะรู้

    ตอบลบ
  63. อย่ามัวแตสงสัยเลยค่ะมาพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองค่ะแล้วจะรู้ด้วยตัวคุณเอง

    ตอบลบ
  64. ต้องมาศึกษาถึงจะรู้ความจริงด้วยตัวของเราเอง

    ตอบลบ
  65. ขอกราบอนุโมทนาบถญค่ะ สาธุๆ

    ตอบลบ
  66. "วัดพระธรรมกาย" ก่อตั้งถูกต้องตามพระธรรมวินัย และกฎหมาย เป็นพระพุทธศาสนาเถรวาท มหานิกาย สามารถศึกษาหาความจริงและพิสูจน์ได้ ด้วยสันติวิธี โดยไม่ต้องสร้างวาทะกรรมสร้างกระแสสื่อชี้นำให้สาธารณชนเข้าใจผิดและเกิดความแตกแยก ใช่ไหม???

    ตอบลบ
  67. ต้องมาศึกษาถึงจะรู้ความจริงด้วยตัวของเราเอง

    ตอบลบ
  68. ไม่ระบุชื่อ17 สิงหาคม 2559 เวลา 09:13

    ใครที่มัวมาสงสัยพุทธแท้ พุทธเทียม ไม่ต้องคิดไรมา เอาศีล๕ มาไล่กันทีละข้อ เอาการให้ทานมาจับ เอาการปฏิบัติธรรมมาตรวจสอบกันก็จะรู้ว่า วัดพระธรรรมกายโคตรพุทธแท้เลย

    ตอบลบ
  69. สาธุกับบทความดีๆค่ะ

    ตอบลบ
  70. สาธุกับบทความดีๆค่ะ

    ตอบลบ
  71. ได้ความรู้. ความจริง. ไม่มีข้อสงสัย. ได้ความกระจ่างชัด. วัดพระธรรมกาย. เป็นวัดเถรวาท.
    เชิงรุก. ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  72. แนวทางการสอนแต่ละยุคสมัยก็ควรมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลแต่ยังคงหลักคำสอนเดิม.. ไม่น่าแปลกเลย ติวเตอร์แต่ละท่านก็มีแนวการสอนต่างกันแต่วิชาก็เนื้อหาเดิม.. ไม่เห็นพูดกันว่าสอนเพี้ยนเห็นไปจ่ายเงินเรียนกันสนุกสนาน...

    ตอบลบ
  73. เป็นวัดพุทธเถรวาท. คนพาลก็อันธพาลหาเรื่องไปตลอด

    ตอบลบ
  74. วัดพระธรรมกาย เป็นวัดในพุทธศาสนาเถรวาท มหานิกาย มาตั้งเเต่เดิมอยู่เเล้ว ท่านที่ไม่เชื่ออยากให้เข้ามาศึกษา ด้วยตนเองดีที่สุด

    ตอบลบ
  75. พวกที่ตั้งคําถามโปรดอ่าให้จบ จะได้ไม่มาตั้งข้อกังขาอีก เข้าใจไหม?

    ตอบลบ
  76. ไม่ระบุชื่อ17 สิงหาคม 2559 เวลา 14:44

    ชัดมากๆค่ะ เข้าใจมากขึ้น ใครที่ชอบสงสัยก็อาานหลายๆรอบ

    ตอบลบ
  77. ไม่ระบุชื่อ17 สิงหาคม 2559 เวลา 14:44

    ชัดมากๆค่ะ เข้าใจมากขึ้น ใครที่ชอบสงสัยก็อาานหลายๆรอบ

    ตอบลบ
  78. วัดพระธรรมกายสอนเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา ตามพระไตรปิฎก คลอดมา แต่มีวิธีการอธิบายในรายละเอียดที่ชัดเจน มีสื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจ ทันยุคสมัย ชวนติดตาม เหมาะกับทุกเพศทุกวัย

    ตอบลบ
  79. ไม่เคยเห็นหลวงพ่อบอกให้แยกนิกายซักที เคยเห็นแต่ให้รวมสงฆ์ รวมพุทธบริษัท แล้วอย่างนี้จะเป็นนิกายใหม่ได้ยังไง คิดไม่ออก

    ตอบลบ
  80. วัดพระธรรมกายไม่ใช่เป็นลัทธิใหม่ค่ะ สอนตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าล้วนๆ มาศึกษากันก่อน อย่ามัวแต่นั่งวิพากษ์วิจารณ์หรือเพียงฟังเขาว่ากันว่านะค่ะ

    ตอบลบ
  81. วัดพระธรรมกาย สอนตรงตามพระไตรปิฎกเป๊ะ คนโจมตีมาบวชเรียนให้รู้จริงก่อนจะไปพูดเถอะค่ะ

    ตอบลบ
  82. วัดพระธรรมกาย สอนตรงตามพระไตรปิฎกเป๊ะ คนโจมตีมาบวชเรียนให้รู้จริงก่อนจะไปพูดเถอะค่ะ

    ตอบลบ
  83. หลวงพ่อสอนให้เป็นคนดี สอนพระให้เป็นพระแท้เคร่งครัดในศีลให้เป็นต้นแบบของพระสฆ์ในอนาคต

    ตอบลบ
  84. สาธุเจ้าค่ะ หวังว่าหลายท่านคงกระจ่างขึ้นนะค่ะ หลวงพ่อท่านมีความสามารถมากในการหงายของที่คว่ำ ทำของที่ยากให้ง่าย ปฎิบัติตามได้จริง.และที่สำคัญ พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง มาลองศึกษาคำสอนของหลวงพ่อดูซิค่ะ. แล้วคุณจะรู้ว่าที่พูดมาจริงหรือไม่?

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.