วัดพระธรรมกายมีแต่กิจกรรมโชว์ความอลังการ เพื่อสอนให้คนหลงบุญ จริงหรือไม่???
คำถาม
:
วัดนี้เน้นแต่ให้คนทำบุญสอนให้คนหลงบุญ
ที่เน้นให้คนมาทำบุญเพราะทางวัดชอบจัดกิจกรรมที่โชว์ความอลังการ และต้องใช้เงินเยอะ
เช่น กิจกรรมเดินธุดงค์ฯ
จริงไหม?
ระหว่างสอนให้คนทำบุญ
กับสอนให้คนทำบาปอันไหนดีกว่ากัน???
ถ้าไม่สอนให้คนทำบุญ!!!
คุณคิดว่าเราควรจะสอนให้คนทำอะไร???(สอนให้คนทำบาปอย่างนั้นหรือ!!!)
แล้วที่คุณพูดว่า...ทางวัดสอนให้คนหลงบุญนั้น คำว่า.. “หลง” ที่ว่าเนี่ย!!!
หมายถึง… “หลงใหล” หรือ “หลงลืม” (ที่จะทำบุญ) คือมันมีหลายหลงหน่ะ!!! เลยอยากรู้ว่ามันคือ "หลง" ไหนกันแน่
อย่างประเด็นที่มีคนพยายามชี้นำว่า...
“วัดพระธรรมกายเน้นให้คนมาทำบุญเยอะๆ เพราะทางวัดชอบจัดกิจกรรมที่โชว์ความอลังการและต้องใช้เงินเยอะ”
ถ้าใครตีประเด็นออกมาในลักษณะนี้ก็ถือว่าไม่ถูกต้อง และดูจะมีอคติกับทางวัดไปสักเล็กน้อยบางประการถึงมากมาย เพราะในความเป็นจริงแล้ว
วัดพระธรรมกายสอนให้คนทำความดีในทุกด้านตามหลักบุญกิริยาวัตถุ 10 ทั้งทำทาน รักษาศีลและเจริญภาวนามาตั้งแต่สร้างวัด
วัดพระธรรมกายสอนให้คนทำความดีในทุกด้านตามหลักบุญกิริยาวัตถุ 10 ทั้งทำทาน รักษาศีลและเจริญภาวนามาตั้งแต่สร้างวัด
จริงอยู่ที่ทางวัดต้องอาศัยปัจจัยที่ได้มาจากศรัทธาสาธุชนในการจัดกิจกรรมงานบุญที่ส่งเสริมให้คนทำความดีหรือกิจกรรมที่ส่งเสริมพระพุทธศาสนา แต่อย่าลืมว่าทุกงานล้วนมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น แล้วด้วยความที่ทางวัดพิมพ์แบงค์เองไม่ได้ ทุกกิจกรรมงานบุญ ไม่ว่าจะเป็นของทางวัดพระธรรมกายหรือแม้แต่ของวัดไหนๆ
จึงจำเป็นต้องอาศัยศรัทธาของ “ผู้ที่มีดวงปัญญา” ที่มองเห็นประโยชน์ของกิจกรรมที่ทางวัดจัดขึ้น เมื่อเขามองเห็นประโยชน์ เขาจึงยอมเสียสละทรัพย์ส่วนตัวที่ได้มาจากหยาดเหงื่อแรงกาย แล้วมาร่วมกันบริจาคเพื่อเป็นเจ้าภาพในเวลาที่ทางวัดจัดกิจกรรมงานบุญในแต่ละครั้ง (ด้วยความเต็มใจ)
จึงจำเป็นต้องอาศัยศรัทธาของ “ผู้ที่มีดวงปัญญา” ที่มองเห็นประโยชน์ของกิจกรรมที่ทางวัดจัดขึ้น เมื่อเขามองเห็นประโยชน์ เขาจึงยอมเสียสละทรัพย์ส่วนตัวที่ได้มาจากหยาดเหงื่อแรงกาย แล้วมาร่วมกันบริจาคเพื่อเป็นเจ้าภาพในเวลาที่ทางวัดจัดกิจกรรมงานบุญในแต่ละครั้ง (ด้วยความเต็มใจ)
อันที่จริงคนที่ตั้งประเด็นจับผิดเหล่านี้ก็น่าจะรู้ว่า...ทุกอย่างบนโลกไม่ใช่ว่าจะได้มาฟรีๆ ยิ่งในยุคสมัยนี้เวลาจะคิดจะทำอะไรสักอย่างไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ล้วนมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น อย่าว่าแต่ค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมของวัดพระธรรมกายเลย แม้แต่คนที่หายใจเข้าออกอยู่ที่บ้าน หรือแค่นอนเฉยๆ อยู่คนเดียวโดยไม่ทำอะไร ทุกอนุวินาทีที่ผ่านไปก็ล้วนมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าข้าวของเครื่องใช้จิปาถะสารพัด เพียงแต่เราจะนำมาขบคิดหรือไม่ก็เท่านั้น
อย่างค่าอาหาร... Input เข้าไป!!!
ก็ต้องเสียค่าใช้จ่าย พอตอน Output
ออกมา!!! อย่าคิดว่าไม่มีค่าใช้จ่ายน่ะ แค่ฉีดน้ำเพื่อล้างชำระก็มีค่าใช้จ่าย จะหยิบทิชชู่มาเช็ดสักแผ่นก็มีค่าใช้จ่าย พอกดชักโครกก็เสียค่าใช้จ่ายอีก เรียกว่า...ทั้งฉีด ทั้งเช็ด ทั้งกดชักโครก...ล้วนมีค่าใช้จ่ายหมด!!! ขนาดอยู่ตัวคนเดียวยังมีค่าใช้จ่ายขนาดนี้ แล้วถ้ากิจกรรมที่รวมคนมาทำความดีเป็นจำนวนมาก!!!
ลองคิดดูสิว่า...มันจะต้องมีค่าใช้จ่ายมากขนาดไหน
ตรงนี้คนที่ชอบตั้งประเด็นจับผิดวัดพระธรรมกายเคยคิดกันบ้างหรือเปล่า!!! หรือคิดแต่จะจับผิดอย่างเดียว
และในเวลาที่ทางวัดจัดกิจกรรมส่งเสริมให้คนมาทำความดีหรือจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมพระพุทธศาสนา หลายคนที่ไม่เข้าใจในเจตนาของทางวัดหรือมีอคติกับทางวัดอาจมองและตีประเด็นไปว่า...
แต่ในความเป็นจริงแล้ว...ทุกภาคส่วนล้วนได้ประโยชน์จากกิจกรรมที่ทางวัดพระธรรมกายจัดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคม
อย่างด้านเศรษฐกิจ...เวลาจัดกิจกรรมส่งเสริมให้คนมาทำความดีหรือจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมพระพุทธศาสนาในแต่ละครั้ง เม็ดเงินที่เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมเหล่านี้ล้วนมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณพื้นที่ที่ใช้จัดงาน
“วัดพระธรรมกายได้หน้าหรือได้ประโยชน์
จากการจัดกิจกรรมเหล่านี้แต่เพียงฝ่ายเดียว”
แต่ในความเป็นจริงแล้ว...ทุกภาคส่วนล้วนได้ประโยชน์จากกิจกรรมที่ทางวัดพระธรรมกายจัดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคม
อย่างด้านเศรษฐกิจ...เวลาจัดกิจกรรมส่งเสริมให้คนมาทำความดีหรือจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมพระพุทธศาสนาในแต่ละครั้ง เม็ดเงินที่เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมเหล่านี้ล้วนมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณพื้นที่ที่ใช้จัดงาน
ยกตัวอย่างเช่น : ในเวลาจัดงานทางวัดจำเป็นต้องใช้เสื่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งเสื่อที่นำมาใช้ทางวัดก็ไม่ได้ทำเอง สุดท้ายก็ต้องไปหาซื้อเสื่อจากร้านค้า ร้านค้าก็ต้องไปสั่งมาจากโรงงาน โรงงานก็ต้องไปจ้างคนงานพร้อมกับหาแหล่งที่ขายวัตถุดิบมาใช้ทำเสื่อ คนที่เป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบพอได้ออร์เดอร์จากโรงงานก็ต้องไปซื้อปุ๋ย ซื้อเมล็ดพันธุ์มาเพาะปลูกเพื่อผลิตวัตถุดิบป้อนส่งให้โรงงาน
เมื่อคนเหล่านี้มีรายได้การใช้จ่ายก็เกิดขึ้น แต่ละคนก็ต้องมาเสียภาษีให้กับรัฐ รัฐก็นำเงินภาษีเหล่านี้มาบริหารประเทศและทำประโยชน์ให้กับประชาชน เรียกได้ว่า...เงินแต่ละบาทแต่ละสตางค์ล้วนมีส่วนกลับไปหล่อเลี้ยงคนทุกระดับตั้งแต่ระดับนายกฯ จนกระทั่งรากหญ้า ที่สำคัญ...เมื่อภาพกิจกรรมส่งเสริมให้คนมาทำความดีออกไปสู่สายตาของชาวโลก (ซึ่งมีอยู่หลายครั้งที่สื่อต่างชาติคัดเลือกภาพกิจกรรมของทางวัดไปเผยแพร่)
ประเทศไทยก็จะยิ่งเป็นที่รู้จักในทางที่ดีในระดับนานาชาติ และมีส่วนช่วยดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวและนำเงินมาใช้จ่ายในประเทศไทยมากขึ้น (อย่างงานตักบาตรพระ 1 หมื่นรูปที่หาดใหญ่ที่จัดขึ้นเมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคมปี 58 สามารถดึงดูดชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ให้มาร่วมงานมากถึง 8,000 คน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว ถือว่ามีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในตัวเมืองหาดใหญ่ทั้งภาคธุรกิจการโรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าเป็นอย่างมาก)
อย่างด้านการเมืองและสังคม...การที่วัดพระธรรมกายจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าว ถือว่ามีส่วนช่วยภาครัฐประหยัดงบประมาณไปได้เยอะ ที่พูดแบบนี้ก็เพราะว่า...การสร้างคนดีให้เกิดขึ้นในสังคมแม้เพียงหนึ่งคน ก็สามารถลดค่าใช้จ่ายที่ภาครัฐจะต้องสูญเสียไปกับกระบวนการต่างๆ ในการปราบปรามคนไม่ดี
ยิ่งในยุคที่คนเสื่อมจากศีลธรรมอย่างในยุคปัจจุบันนี้ การสร้างคนดีทีละคนมันคงไม่ทันกาล ดังนั้น...ทางวัดจึงมุ่งเน้นทำกิจกรรมส่งเสริมให้คนทำความดีและปลูกฝังศีลธรรมทีละมากๆ (คือ...ต้องว่ากันเป็นหลักหมื่น หลักแสน หรือหลักล้านถึงจะเหมาะสมกับยุคที่มนุษย์เสื่อมจากศีลธรรมแบบนี้) พูดได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ “สร้างความสงบสยบความชั่วทั้งหลาย” ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาด้านศีลธรรมที่ต้นเหตุที่ประหยัดสุดประโยชน์สูง
เพราะฉะนั้น...ใครก็ตามที่ชอบตั้งประเด็นให้คนเข้าใจวัดในทางที่ผิด อย่ามัวแต่จ้องจับผิด!!!
หรือดูแต่ยอดเงินบริจาคที่ศรัทธาสาธุชนนำมาถวายเพื่อร่วมกิจกรรมส่งเสริมให้คนทำความดีกับทางวัด เพราะเงินที่เข้ามาสุดท้ายก็ต้องจ่ายออกไป คนที่ “คิดดีและมีปัญญา” เขาจะมองภาพในส่วนนี้ออก ส่วนคนที่ “มีปัญญาแต่ไม่ยอมใช้ปัญญาคิดในสิ่งดีๆ” อาจจะมองไม่เห็นประโยชน์ของกิจกรรมส่งเสริมให้คนทำความดีที่ทางวัดพระธรรมกายจัดขึ้น
ก็อย่างที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า...ทุกกระบวนการในการปลูกฝังศีลธรรมสอนคนให้คนละชั่ว ทำดี ทำใจให้บริสุทธิ์ผ่องใสนั้น มันมีค่าใช้จ่าย และค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็จะย้อนคืนกลับไปสู่ระบบเศรษฐกิจของชาติ และกระจายรายได้ไปสู่สังคมตั้งแต่ระดับบนจนถึงระดับรากหญ้า เรียกได้ว่า...เป็นการกระจายรายได้ในวงกว้างอย่างที่ใครหลายๆ
คนคาดไม่ถึง
ดังนั้น...ถ้าคุณหรือใครไม่เคยมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการทำความดีของทางวัด หรือพูดง่ายๆ ว่าไม่เคยร่วมออกเงินเลยสักบาท คุณก็ไม่ควรไปปรามาสหรือใช้ถ้อยคำดูแคลนกลุ่มคนที่เขาตั้งใจทำความดี หรือตีประเด็นให้คนในสังคมเข้าใจผิดเหมือนอย่างที่คุณและใครอีกหลายๆ คนกำลังทำกันอยู่ในตอนนี้
ดังนั้น...ถ้าคุณหรือใครไม่เคยมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการทำความดีของทางวัด หรือพูดง่ายๆ ว่าไม่เคยร่วมออกเงินเลยสักบาท คุณก็ไม่ควรไปปรามาสหรือใช้ถ้อยคำดูแคลนกลุ่มคนที่เขาตั้งใจทำความดี หรือตีประเด็นให้คนในสังคมเข้าใจผิดเหมือนอย่างที่คุณและใครอีกหลายๆ คนกำลังทำกันอยู่ในตอนนี้
อันที่จริง!!! คนที่ตั้งประเด็นเหล่านี้ควรจะชื่นชมและอนุโมทนากับเขาด้วยซ้ำ เพราะคุณยังทำแบบเขาไม่ได้เลย มาถึงตรงนี้!!! ขอถามจริงๆ เถอะ "การรวมคนมาทำความดี" มันไม่ดีตรงไหน!!! หรือเพียงแค่คุณไม่ชอบวัดพระธรรมกายก็เลยออกมาต่อต้าน
ถ้าไม่ชอบไม่อยากมาร่วมก็ไม่เป็นไร ว่าแต่ตัวคุณเคยคิดทำกิจกรรมดีๆ แบบนี้บ้างไหม หรือถนัดแต่อยู่หน้าคอมแล้วตั้งประเด็นให้คนเข้าใจผิด นี่มันอาชีพของคุณรึ!!! นี้มันเป็นชีวิตและจิตวิญญาณของคุณรึ!!! คุณใช้สังคมโซเชียลเพื่อตั้งประเด็นใส่ร้ายกันแบบนี้รึ!!!
ทางที่ดี...มาช่วยกันส่งเสริมศีลธรรมให้เกิดขึ้นในประเทศชาติบ้านเมืองของเราจะดีกว่า
แต่ถ้าไม่คิดจะช่วยจริงๆ ก็ให้อยู่เฉยๆ แค่นี้ก็ถือว่าช่วยมากแล้ว
วัดพระธรรมกายมีแต่กิจกรรมโชว์ความอลังการ เพื่อสอนให้คนหลงบุญ จริงหรือไม่???
Reviewed by Unknown
on
06:06
Rating:
อนุโมทนากับเรื่องราวดีๆค่ะ...^_^
ตอบลบไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป
สาธุค่ะ
วัดพระธรรมกายสอนให้รักบุญ กลัวบาป
ตอบลบสาธุ
ตอบลบสาธุ
ตอบลบสาธุคะ ภาพการทำความดี
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบวัดพระธรรมกายสร้างมาด้วย แรงศรัทธาของสาธุชน
ตอบลบทัวโลก สอนให้คนเป็นคนดีของสังคม
จริงแสนจริง
ตอบลบ💐🙏🙏🙏
ตอบลบไม่ใช่หลงบุญ แต่ทำให้ใจคนอยู่ในบุญ อยู่กับสิ่งที่ดีงามแล้วจะได้รับผลทางด้านร่างกายและจิตใจที่สิ่งดีงาม
ตอบลบอนุโมทนาสาธุกับบทความดีดีค่ะ สาธุๆๆ
ตอบลบ.......📆 2 / 8 / 59 📆.......
ตอบลบทุกวันนี้ ปัจจามิตร โจมตีศาสน์
อย่างอุกอาจ หวังย่ำยี ให้เป็นผง
ขอพวกเรา ชาวพุทธไทย จงดำรง
ให้มั่นคง สืบพุทธศาสน์ คู่ชาติไทย.
สาธุค่าาาา
ตอบลบโดนใจ โดนจริง สาธุค่ะ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบสาธุเจ้าค่ะ
ตอบลบกิจกรรมสอนคนให้เป็นคนดีมีศีลมีบุญ มีความเจริญ ควรจัดบ่อยๆๆ เห็นแล้วปลื้มทุกครั้ง
ตอบลบ" อย่างไรแล้ว การทำบุญกุศลความดี ก็ย่อมดีกว่าทำชั่วซึ่งเป็นบาปอกุศล มิใช่หรือ??? "
ตอบลบอนุโมทนา
ตอบลบอนุโมทนา
ตอบลบก็วัดใหญ่ พระภิกษุสามเณรเยอะ คนเยอะ ทำอะไรก็เลยดูอลังเองค่ะ
ตอบลบการสร้างภาพดีๆเมื่อคนเห็นก็ปลื้มใจ คนที่เขาทำบุญเขาก็อยากเห็นภาพดีๆจะได้เก็บไว้ปลื้มนานๆ เพราะกว่าจะมีภาพดีๆหนึ่งภาพต้องใช้ความศรัทธาและสละทรัพย์ที่หามาได้ด้วยความยากลำบาก.....ทำครั้งหนึ่งต้องทำให้ปลื้มได้หลายๆครั้งเขาเรียกว่าผู้มีปัญญาค่ะ...
ตอบลบบุญเป็นที่พึ่งของเราทั้งโลกนี้และโลกหน้า ไม่เกิดมาสร้างบุญก็ไม่รู้จะเกิดมาทำไม เสียเปล่า
ตอบลบวัดพระธรรมกายคิดถูก ทำถูกแล้ว กราบอนุโมทนาบุญค่ะ
ตอบลบวัดพระธรรมกายคิดถูก ทำถูกแล้ว กราบอนุโมทนาบุญค่ะ
ตอบลบบุญอยู่เบื้องหลังความสุขและความสำเร็จทั้งปวง
ตอบลบมาช่วยกันส่งเสริมศีลธรรมให้เกิดขึ้นกับประเทศ ชาติไทย มาปองดองกันดีกว่าอย่าแบ่งแยกกัน
ตอบลบมาช่วยกันส่งเสริมศีลธรรมให้เกิดขึ้นกับประเทศ ชาติไทย มาปองดองกันดีกว่าอย่าแบ่งแยกกัน
ตอบลบการชวนคนมาสร้างความดี
ตอบลบเป็นประโยชน์มหาศาลแก่ชาวโลก
ในขณะแห่งกุศลจิตชื่อว่า "บุญ" ประกอบด้วยเหตุสามคือ ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง มีสุขเป็นวิบาก นำสุขมาให้ พระศาสดาจึงตรัสว่า "การสั่งสมบุญยิ่งขึ้น มีแต่นำสุขมาให้, ภิกษุทั้งหลาย พวกเธออย่ากลัวบุญเลย บุญเป็นชื่อของความสุข" การทำบุญยิ่งมากยิ่งมีปัญญา ไม่มีหลงงมงาย มีแต่คนโง่คนตระหนี่คนเห็นผิดเท่านั้นที่ไม่รู้จักบุญ ไม่รู้ผลของบุญ ก็ย่อมพูดไปตามความโง่ความตระหนี่ความเห็นผิดของตน เพราะคิดว่า การทำบุญทำทาน เป็นของว่างเปล่า มีขี้เถ้าเป็นที่สุด ดุจการเผาฟาง คนโง่คนตระหนี่ มีความเห็นผิด จึงสรรเสริญแต่การรับ ติเตียนการให้ทานฉะนี้ พระบรมศาสดาจึงตรัสว่า "พวกคนตระหนี่ไปเทวโลกไม่ได้เลย คนพาลปัญญาทราม ไม่สรรเสริญการให้ทาน...ฯ
ตอบลบWe will continue to practice the Lord Buddha's Teachings despite vicious comments made by ill-wishers of Wat Phra Dhammakaya. We will never stop performing wholesome deeds and accumulating merit. Never!
ตอบลบวัดพระธรรมกายมีแต่สอนให้คนรู้จักค่าของบุญต่างหาก
ตอบลบเป๊ะ วัดพระธรรมกายสอนให้รักบุญทำความดีเรื่อยไปอย่าท้อ เพราะเราตายไปเอาไปได้แค่บุญกับบาปเท่านั้นค่ะเราต้องเอาบุญไปอย่างเดียวชัดแจ้งนะค่ะ ถ้ายังไม่เข้าใจก็มาทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาที่วัดได้นะค่ะ จะได้เข้าใจวัดมากขึ้น บุญไม่มีขายอยากได้ต้องทำเองค่ะ
ตอบลบหลงบุญดีกว่าหลงบาป
ตอบลบสาธุ
ตอบลบหลงอยู่ในการสร้างบุญหรือกุศลกรรมบท 10 ประการนั้นดีกว่าหลงสร้างอกุศลกรรมบท 10 เป็นแน่ละครับ
ตอบลบนับเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก
ตอบลบทำสิ่งที่ย้อนยุคพุทธกาล
คิดดี มีปัญญา
ตอบลบคิดไม่ดี มีแต่ปัญหาเข้าตัว....
ข้าพเจ้าและครอบครัว ยินดีร่วมทำบุญทุกๆบุญที่วัดจัดขึ้น อย่างเต็มกำลังสติปัญญา และปลื้มในบุญทุกๆครั้งที่ได้มีส่วนร่วมในบุญกุศลของวัดที่จัดขึ้น และจะขอร่วมกิจกรรมของวัดตลอดไป
ตอบลบดีกว่านำทรัพย์ที่หามาโดยยากไปละลายกับเรื่องกิน ดื่ม เที่ยว ช้อป ไร้สาระแถมทุกข์ตามมาอีกมากมาย
ผู้มีปัญญาย่อมมองในหลายมุมไม่ใช่มองแต่อคติ
ตอบลบและต้องเข้ามาพิสูจน์ด้วยตัวเองที่วัด
คิดดี ทำดี พูดดี สาธุค่ะ
ตอบลบทำดีไม่มีวันตาย ทำชั่วน่ากลัวตั้งแต่ยังไม่ตาย
ตอบลบทำดีไม่มีวันตาย ทำชั่วน่ากลัวตั้งแต่ยังไม่ตาย
ตอบลบตอบคำถามได้ เคลียร์คัด ชัดเจน ผู้ใดมีปัญญา ย่อมต้องเข้าใจได้เป็นอย่างดี สาธุค่ะ ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
ตอบลบวัดพระธรรมกายสอนไห้ทำดีละชั่วความชั่วค่ะ
ตอบลบวัดพระธรรมกายสอนไห้ทำดีละชั่วความชั่วค่ะ
ตอบลบยิ่งตั้งใจทำพิธีกรรม&จัดพิธีให้ดูดี ดูอลังการ คนเห็นยิ่งชอบ ยิ่งปลื้ม เกิดบุญมหาศาล เพราะใจเบิกบานในบุญเอย.
ตอบลบยิ่งตั้งใจทำพิธีกรรม&จัดพิธีให้ดูดี ดูอลังการ คนเห็นยิ่งชอบ ยิ่งปลื้ม เกิดบุญมหาศาล เพราะใจเบิกบานในบุญเอย.
ตอบลบอนุโมทนาบุญกับวัดพระธรรมกาย สร้างความดีตลอด
ตอบลบสาธุ สาธุ สาธุ ครับผม
ตอบลบสาธุ สาธุ สาธุ ครับผม
ตอบลบศาสนาพุทธยิ่งใหญ่ขนาดนี้ จะทำแบบเล็กน้อยไม่ได้ ต้องการให้ทั่วโลกรับรู้และเข้าใจต้องเต็มที่ ไม่เช่นนั้นคำว่ามหาศาสดาเอกของโลกคงไม่มีความหมาย... อนุโมทนาบุญกับสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาชาวโลก บุญมากขนาดนี้ร่วมกันสาธุการนะ. สาธุ สาธุ สาธุ
ตอบลบอนุโมทนา สาธุ
ตอบลบสอนให้เราทำทานก็ดีแล้วค่ะ สอนให้เรารักษาศีลยิ่งดีๆ สอนให้ปฏิบัติธรรม ภาวนายิ่งดีใจสบาย เราชอบๆ ใครที่ไม่ชอบก็อย่าว่าคนอื่นนะค่ะ เพราะเขาไม่ได้ทำบนหัวคุณ
ตอบลบสอนให้เราทำทานก็ดีแล้วค่ะ สอนให้เรารักษาศีลยิ่งดีๆ สอนให้ปฏิบัติธรรม ภาวนายิ่งดีใจสบาย เราชอบๆ ใครที่ไม่ชอบก็อย่าว่าคนอื่นนะค่ะ เพราะเขาไม่ได้ทำบนหัวคุณ
ตอบลบภาพทุกภาพเกิดจากแรงศรัทธาที่มีต่อพระพุทธศาสนา มีหัวใจรักในการทำความดี ต้องสนับสนุนการทำความดีสิ
ตอบลบภาพทุกภาพเกิดจากแรงศรัทธาที่มีต่อพระพุทธศาสนา มีหัวใจรักในการทำความดี ต้องสนับสนุนการทำความดีสิ
ตอบลบหลงทำบุญยังดีกว่าหลงไปทำบาปมั้ยคะ ท่านๆๆทั้งหลาย
ตอบลบไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่เพื่อการสร้างคนดีๆ แม้มีค่าใช้จ่ายบ้างก็ยังคุ้ม
ตอบลบภาพแห่งความประทับใจ อนุโมทนาบุญค่ะ สาธุๆๆๆ
ตอบลบภาพแห่งความประทับใจ อนุโมทนาบุญค่ะ สาธุๆๆๆ
ตอบลบคนโจมตีทำเรื่องดีๆอะไรมาบ้าง สงสัยจัง หรือว่ารับจ้างขุดเรื่องด่าอย่างเดียว
ตอบลบคนโจมตีทำเรื่องดีๆอะไรมาบ้าง สงสัยจัง หรือว่ารับจ้างขุดเรื่องด่าอย่างเดียว
ตอบลบเราต้องทำความดีเยอะๆ
ตอบลบทำดีเรื่อยไป ทำความจริงให้ปรากฏ
ตอบลบทำดีเรื่อยไป ทำความจริงให้ปรากฏ
ตอบลบบุญเป็นเบื้องหลังแห่งความสุขและความสำเร็จใจชีวิต
ตอบลบอธิบายได้เคลียร์คัตชัดเจนมากๆๆๆค่ะ....สาธุ...สาธุ...สาธุุค่ะ
ตอบลบอธิบายได้เคลียร์คัตชัดเจนมากๆๆๆค่ะ....สาธุ...สาธุ...สาธุุค่ะ
ตอบลบบทความนี้ ถูกใจจริงจริ๊งค่ะ
ตอบลบผู้มีปัญญาย่อมส่งเสริมกิจกรรมที่สร้างความดี ยิ่งได้มากยิ่งดี
บทความนี้ ถูกใจจริงจริ๊งค่ะ
ตอบลบผู้มีปัญญาย่อมส่งเสริมกิจกรรมที่สร้างความดี ยิ่งได้มากยิ่งดี
ใครสงสัยเชิญเข้ไปพิสูจน์ด้วยตังเองเลยดีกว่าจ้ะ
ตอบลบใครสงสัยเชิญเข้ไปพิสูจน์ด้วยตังเองเลยดีกว่าจ้ะ
ตอบลบสุดยอด
ตอบลบสุดยอด
ตอบลบจัดกิจกรรมเพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการสร้างความดี เพื่อเป็นต้นแแบให้กับสังคม ให้ทุก
ตอบลบคนรักบุญ ไม่ใช่ให้หลงบุญ แต่ถ้าจะใช้คำว่าหลงบุญก็นับวาาเป็นสิ่งมที่ดี ไม่ใช่หรือ ดีกง่าไปหลงอย่างอื่น เช่นหลงอำนาจ อย่างดีเอสไอ ทำให้เกิด
ปัญหามากมาย แต่ถ้าหลงบุญก็จะไม่ทำแบบนี้
จะคิด พูด และทำแต่สื่งที่ดี โลกใบนี้ก็จะมีแต่สันติสุข ตามที่หลวงพ่อสอน ให้รักบุญกลัวบาป
สาธุค่ะ เขียนได้ถูกใจมาก ยอมรับค่ะว่าอ่านแล้วมีความสูขยิ่งๆขึ้น เพราะกิจกรรมที่ทางวัดจัดก็มีส่วนทุกบุญ ได้ไปร่วมงานทุกปี ปลื้มมากค่ะ สาธุๆๆค่ะ
ตอบลบชีวิตเกิดมามีค่านัก ที่รุ้จักหลวงพ่อและหมู่คณะ สอนให้รู้จักการทําทานรักษาศิล ทําแล้วมีปิติ ยากให้มีกิจการแบบนี้ทุกๆๆวันเลยค่ะ
ตอบลบชีวิตเกิดมามีค่านัก ที่รุ้จักหลวงพ่อและหมู่คณะ สอนให้รู้จักการทําทานรักษาศิล ทําแล้วมีปิติ ยากให้มีกิจการแบบนี้ทุกๆๆวันเลยค่ะ
ตอบลบชีวิตเกิดมามีค่านัก ที่รุ้จักหลวงพ่อและหมู่คณะ สอนให้รู้จักการทําทานรักษาศิล ทําแล้วมีปิติ ยากให้มีกิจการแบบนี้ทุกๆๆวันเลยค่ะ
ตอบลบชีวิตเกิดมามีค่านัก ที่รุ้จักหลวงพ่อและหมู่คณะ สอนให้รู้จักการทําทานรักษาศิล ทําแล้วมีปิติ ยากให้มีกิจการแบบนี้ทุกๆๆวันเลยค่ะ
ตอบลบตรงประเด็นมากเลยค่ะ สาธุๆๆ
ตอบลบไม่สู้ไม่หนีทำความดีเรื่อยไป
ตอบลบสาธุ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบทุกๆๆกิจกรรม เพื่อบุญล้วนๆ. อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
ตอบลบทุกๆๆกิจกรรม เพื่อบุญล้วนๆ. อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
ตอบลบรู้ด้วยตนเอง ดีกว่าใครก็ไม่รู้มาบอกเรา..ธรรมะย่อมชนะอธรรมเสมอ
ตอบลบสาธุ
ตอบลบสาธุ
ตอบลบใช้สมองคิดกิจกรรมดีๆ! เพื่อสร้างโลกให้มีคนดีมากมายสิ! เราอนุโมทนากับคุณแน่! ไหนจะเสียเวลาคิดแล้ว! ก็คิดให้ดี! ให้เกิดความรัก! ความปองดอง! ไม่ใช่คิดเอาประโยชน์ตัว! โดยการใส่ร้ายคนอื่น!
ตอบลบทำดีไม่ต้องเกรงใจมาร
ตอบลบวัดพระธรรมกาย สงบ สันติ อหิงสา
ตอบลบไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องการเมือง
วัดพระธรรมกาย สงบ สันติ อหิงสา
ตอบลบไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องการเมือง
หลงบุญ ดีกว่า หลงบาปนะคร้า เอ ถ้าไม่มีภาพการทำบุญนี่ คนจะนึกถึงบุญได้ยังไงคะ ในยุคสมัยที่อะไรๆ ดูบิด ๆ เบี้ยว ๆ แบบนี้ มีวัดพระธรรมกายเท่านั้นที่ ยืนหยัด เดินหน้าทำความดี โดยไม่ย่อท้อ แม้จะมีกระแสพายุถาโถม เป็นกำลังใจให้วัดและสาธุชนผู้มุ่งมั่นทำความดีค่ะ
ตอบลบพรุ่งนี้ (10 ส.ค.2559) เวลา 06.00 น.
ตอบลบมีพิธีตักบาตรพระ 300 กว่ารูป
บริเวณหน้าห้องจัดนิทรรศการ
เสร็จแล้วแวะมาปฏิบัติธรรมด้วยกันที่ห้องสัมมาอะระหัง ชั้น 1 ติดบันไดเลื่อนฝั่งห้องรับบริจาค #อาคาร100ปีคุณยายฯ มี 2 รอบ
8.30-10.30 น. ปฏิบัติธรรม
13.00-15.00 น. ปฏิบัติธรรม
15.00-16.00 น. ฟังธรรม ชมสื่ออานุภาพสัมมาอะระหัง
สอบถามโทร. 08-2790-7061
พรุ่งนี้ (10 ส.ค.2559) เวลา 06.00 น.
ตอบลบมีพิธีตักบาตรพระ 300 กว่ารูป
บริเวณหน้าห้องจัดนิทรรศการ
เสร็จแล้วแวะมาปฏิบัติธรรมด้วยกันที่ห้องสัมมาอะระหัง ชั้น 1 ติดบันไดเลื่อนฝั่งห้องรับบริจาค #อาคาร100ปีคุณยายฯ มี 2 รอบ
8.30-10.30 น. ปฏิบัติธรรม
13.00-15.00 น. ปฏิบัติธรรม
15.00-16.00 น. ฟังธรรม ชมสื่ออานุภาพสัมมาอะระหัง
สอบถามโทร. 08-2790-7061
คนดี ชอบดูภาพดีๆ ที่เป็นบุญเป็นกุศลค่ะ
ตอบลบคิดดีก็มีปัญญา....คิดไม่ดีก็มีปัญหา
ตอบลบปิติใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งแห่งประวัติศาสตร์ของพระศาสนาในทุกกิจกรรมงานบุญ
ตอบลบความดีคนดีทำง่าย
ตอบลบแจ่มแจ้งกระจาางใจสาธุค่ะ
ตอบลบสาธุค่ะแจ่มแจ้งกระจ่างใจหลวงพ่อสอนดีค่ะ
ตอบลบความคิดแบบนี้ขึ้นอยู่กับจิตใจของคนนั้นว่าเป็นคนเช่นไรต่างหากเล่า
ตอบลบสาธุ
ตอบลบสาธุๆๆๆ
ตอบลบถ้าคุณติดลบ กับวัดแล้วคุณมีความสุขไม๊ และประโยชน์ที่คิดคืออะไร คนที่ไปเขาเต็มใจนะครับ ทั้งร้อน ทั้งรอ ฯลฯ ในส่วนพระธุดงค์ท่านเดินเป็นร้อยกิโล คุณลองเดินซัก 5 กิโล แล้วคุณจะได้คำตอบ ซักวันผมก็ขอให้พวกคุณดวงตาเห็นธรรมด้วยครับ
ตอบลบสุดยอด!!!! ครับ เขียนได้ดีมาก ๆ ใครได้อ่านโดยตลอด
ตอบลบต้องรู้สึกได้ถึงสิ่งดี ๆ ที่ชาววัดพระธรรมกายกำลังทำให้สังคม
อ่านให้จบนะครับ แล้วคุณจุะขอบคุณคนเขียนมาก ๆ ขอบอก!!!!
ไม่สู้ไม่หนีทําดีเรื่อยไป
ตอบลบไม่สู้ไม่หนีทําดีเรื่อยไป
ตอบลบหลงบุญไม่ดีตรงไหนเหรอ ไม่ได้ทำให้ตัวเองเดือดร้อน ไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน. รู้จักไหมสุขสบาย มาทำบุญซิ
ตอบลบกิจกรรมของวัดพระธรรมกายค่ะ ทำเข่นนี้เป็นปกติ
ตอบลบ